ปัญหาใหญ่อย่างหนึ่งของคนมีรถเลยก็คือ การที่ “รถสตาร์ทไม่ติด” ซึ่งสาเหตุแรก ๆ มักจะเกิดจากแบตเตอรี่ไม่มีไฟหรือเสื่อมสภาพ ซึ่งถ้าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพนั่นก็หมายถึงจะต้องมีค่าใช้จ่ายในเรื่องรถเพิ่มเติมอีกแล้ว บางคนซื้อประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ราคาสูงไว้ ค่าใช้จ่ายก็สูงอยู่แล้ว ถ้ามีค่าซ่อมบำรุงอื่น ๆ ประเดประดังมาแบบไม่ตั้งใจเช่นนี้ด้วย ก็ทำให้เครียดได้เหมือนกัน
ดังนั้น การดูแลรถอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นเรื่องสำคัญ จะได้ช่วยเซฟค่าใช้จ่ายได้ เริ่มต้นง่าย ๆ ก็ให้เริ่มจากการดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ของตนเองก่อน จะได้ไม่มีปัญหารถสตาร์ทไม่ติด สิ่งที่ควรมีติดบ้านเอาไว้เลยก็คือเครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถ แต่หลายคนอาจจะมองว่าไม่จำเป็น แล้วคนใช้รถสไตล์ไหนบ้างที่ควรจะซื้อเครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถติดบ้านเอาไว้ ลองมาดูกัน
1.สไตล์ Big bike Biker
ใครที่เป็น Biker สายขี่บิ๊กไบค์ออกทริปต่าง ๆ คงทราบกันดีว่ารถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ก็เป็นรถที่จะต้องใช้แบตเตอรี่เหมือนกัน ซึ่งในช่วงโควิดระบาดไม่ค่อยได้ออกทริป ทำให้หลายคนจาก Biker สายซิ่งกลายเป็น Biker สายจอดไปได้เลย เมื่อไม่ได้ใช้รถนานหลายวัน แบตเตอรี่ก็มีปัญหาได้
เมื่อนาน ๆ จะได้ขี่ออกทริปสักทีก็ควรมีเครื่องชาร์จแบตเตอรี่มอเตอร์ไซค์ไว้ติดบ้านบ้าง ชาร์จทิ้งไว้ได้เป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน เวลาจะออกทริปไปกับกลุ่ม Biker ด้วยกัน ค่อยมาถอดที่ชาร์จออกได้ แบบนี้จะไปไหนทุกครั้งไม่มีคำว่าสตาร์ทไม่ติดแน่นอน
2.สไตล์รถแรงแบบ Supercar
บางคนรักรถยนต์สุดหรูสไตล์รถ Supercar เช่น รถ Lamborghini, Porsche และก็ไม่ลืมแนบข้างด้วยประกันชั้น 1 แม้ว่าประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ราคาจะสูงก็ตาม ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะถ้าพิจารณาจากราคาและสมรรถนะของรถก็เหมาะสมแล้วที่ควรจะต้องมีประกันชั้น 1 ไว้ ซึ่งใครมีรถแรง ๆ แบบนี้อยู่ก็จะต้องหาโอกาสไปขับขี่ทดสอบเครื่องอยู่เสมอแน่นอน
แต่หากว่ามีเหตุต้องให้จอดรถนิ่งสนิทไม่ได้ทดสอบเครื่องแบบในระยะโควิดระบาดแบบนี้ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มสไตล์การใช้รถที่ควรจะต้องมีเครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ติดบ้านไว้เลย ต้องคอยชาร์จไฟไว้เพื่อให้ระบบไฟฟ้าภายในยังคงสมบูรณ์ อย่าลืมว่ารถ Supercar อะไหล่แพงมาก หากอะไรเสียไปก็คงตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงทีเดียว
3.สไตล์รักการสะสม
ใครที่ไม่เพียงชอบการขับขี่แต่ยังชอบสะสมรถด้วย มีรถหลายคันในบ้าน ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ควรจะต้องซื้อเครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถเอาไว้ติดบ้าน ทั้งนี้จะได้บริหารจัดการรถแต่ละคันไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพไปนั่นเอง
4.สไตล์แบ่งประเภทการใช้งาน
บางคนอาจจะไม่ได้มีรถเยอะเหมือนคนที่สะสมรถ แต่ก็มีรถหลายคัน เอาไว้แยกการใช้งาน หรือสลับกับคนในบ้านเอาไว้ใช้ ก็นับเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ควรต้องมีเครื่องชาร์จไว้ที่บ้าน ไม่อย่างนั้นพอถึงเวลาจะใช้รถที่ต้องการขึ้นมา รถอาจมีปัญหาสตาร์ทไม่ติดได้
5.สไตล์สมบุกสมบัน
คนที่ใช้รถทำงานเป็นประจำ หรือคนที่ต้องขับไกลบ่อย ๆ กลุ่มนี้เหมือนจะไม่จำเป็นต้องมีเครื่องชาร์จประจำบ้าน แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับเป็นกลุ่มที่ควรจะมี เพราะถ้าช่วงไหนไม่ได้ขับนาน ๆ แบตเตอรี่ที่เคยรับไฟ เคยชาร์จทุกวันอาจจะแห้งเร็วกว่าปกติ ดังนั้น มีไว้ย่อมดีกว่า
นี่คือ 5 กลุ่ม 5 สไตล์การใช้รถที่ควรจะต้องมีเครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถติดบ้านเอาไว้ นอกจากซื้อเครื่องชาร์จแล้ว อย่าลืมเรื่องการซื้อประกันด้วยนะ ใครต้องการเลือกประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ราคาไม่แพง เหมาะกับรถและสไตล์การขับขี่ของคุณ สามารถเข้าไปซื้อได้ที่เว็บของ EasyCompare มีประกันราคาดีที่คุ้มค่าให้คุณเลือกเพียบ ซื้อไว้เถอะอุ่นใจกว่า